วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ครั้งแรกที่ Singapore โอ้โห้ ตื่นเต้น


แหมๆ ก็จะได้ไปต่างประเทศเป็นครั้งแรกก็ตื่นเต้นอย่างงี้แหระ ได้ตั๋วฟรีไป แถมด้วยทัวร์ฟรี แบบพิเศษ ประทับใจมากเลยทีเดียว การเดินทางไปสิงค์โปร ไม่ได้อยากอย่างที่คิด เพราะตอนนี้มีหลายสายการบินที่ให้บริการบินตรงจากภูเก็ต ถึงสิงค์โปร ไม่ว่าจะเป็น โลคอร์ส หรือ ไฮคลาส ก็ออกโปรโมชั่นมาให้ใครๆ ก็บินได้


ทริปนี้ได้รับการสนับสนุนจากสายการบินซิลค์แอร์ (สิทธิ์พนักงานบินฟรี ปีล่ะครั้ง) ร่วมเดินทางกับพี่สาวออฟฟิตเดียวกันอีกสองคน ได้รับการต้อนรับจากพี่ชายที่แสนดีอีกคนที่ได้ไปทำงานประจำอยู่สิงค์โปร


ทริปที่แสนอบอุ่น ประทับใจ และ ตื่นตา ก็เริ่มขึ้น


การเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกค่อนข้างลำบากเนื่องจากต้องตอบคำถาม และกรอกแบบฟอร์มมากมายที่ผ่านตรวจคนเข้าเมือง ทั้งขาออก และขาเข้า ติดอยู่ที่คิด ตม. เกือบ ชม. ตรวจสอบหลักฐานการเดินทาง ตอบคำถาม และกรอกแบบฟอร์ม
 1 ชั่วโมง 45 นาที จากสนามบินนานาชาติภูเก็ต ถึง สนามบิน ชางกี ประเทศสิงค์โปร


มาถึงก็อย่าได้อยู่ช้า เก็บของเข้าห้อง เริ่มที่แรกกันเลย China Town ของกินเพียบ ราคาย่อมเยาว์ กลางสี่แยก China Town สถานที่ที่ไม่เคยหลับไหล ผู้คนขวักไขว่อยู่ตลอดเวลา








































โรงแรมย่าน China Town แม้จะเป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ราคาไม่เล็กอย่างที่คิด ยิ่งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ศูนย์การค้า














ช่วงที่เดินทางเป็นงานเทศกาลโคมไฟ ทุกพื้นที่เลยถูกตกแต่งด้วยโคมไฟหลากหลายรูปแบบ สีสันสวยสดใส


















ร้านขนมปังสังขยา แต่จะบอกว่าอร่อยไม่ธรรมดาเลยยยยย


















Clark Quay เป็นอีกย่านนึงที่มีศูนย์การค้า ร้านค้าแบรน์เนมชั้นนำอยู่มากมาก ลดราคาแข่งกัน เพื่อเรียกลูกค้า สิงค์โปรขอแนะนำให้เที่ยวช่วงเทศกาล Great Singapore Sales เดือน กรกฎาคม ร้านค้าแบรนชั้นนำส่วนใหญ่นำสินค้ามาลดราคาแบบ 50%
เทศกาลโคมไฟ บริเวณนี้จะเป็นจุดศูนย์กลางของงาน ทั่วทั้งบริเวณจะถูกตกแต่งด้วยโคมไฟแบบต่างๆ

ใจกลางเมือง ย่านที่มีชื่อเสียงอีกย่าน

เหนื่อยแระ ระหว่างรอรถกลับบ้าน

ตึกแบบโบราณแต่สีสันสดใส

วันใหม่ แวะไหว้พระที่วัดอินเดีย ก่อนออกเดินทางต่อ

ทำม่ะเป็นหรอก แต่แอ็คถ่ายรูป อิอิ

เข้าไปด้านในก็จะเป็นที่เก็บคัมภีร์

เค้าบอกว่าหมุนวงคัมภีร์หนึ่งรอบ เท่ากับท่องคัมภีร์ 1000 รอบ

ศาลเจ้าอยู่ใกล้ๆ กับ China Town แต่บรรยายกาศกลางงวัน และกลางคืน ต่างกันมาก

รอรถไฟใต้ดิน เพื่อไป Orchard Road ที่นี่ใช้รถไฟใต้ดินกันเป็นหลัก เพราะสะดวก และบริการไปทุกเส้นทางและทุกส่วนของเกาะสิงค์โปร

รถกำลังมาแล้ว

Orchard Road ย่าน ช็อปปิ้งชื่อดังที่ใครมาสิงค์โปรแล้วไม่ไป เหมือนมาไม่ถึง จบทริปวันที่สอง

เช้าอีกวัน รองท้องด้วยปาท่องโกยักษ์ ก่อนไปทัวร์ต่อ วันนี้ได้ทำซิตี้ทัวร์ด้วยเรือสะเทื้อนน้ำ สะเทิ้นบก

ตามด้วยซาลาเปา ไส้ทะลัก

Ducktours รถสะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก ทำซิตี้ทัวร์รอบตัวเมอง ย่าน Marina Bay จากนั่นก็แปลงร่างเป็นเรือพาล่องเรือในอ่าว Marina ชม Melion

Melion วิวจากในเรือ

น้ำพุแห่งความโชคดี อีกสถานที่ที่คนมาสิงค์โปร จะต้องมาเยือนเพื่อนำความโชคดีกลับบ้าน เดินวนขวา สาม รอบ เป็นอันเสร็จพิธี

สิงค์โปรเป็นเมืองที่สะอาดและเป็นระเบียบทุกที่ดูสะอาดตา อีกเรื่องที่เป็นเรื่องแปลกที่สิงค์โปรคือ ใครมีรถป้ายแดง ใช่ว่าเป็นคนรวยที่สิงค์โปร แต่คือคนที่พอจะมีเงินซื้อรถเท่านั่น เพราะรถป้ายแดงที่นี่คือรถที่เสียภาษีน้อย ไม่สามารถนำมาขับได้ในวันปกติ ยกเว้นวันอาทิตย์

ไปขึ้นบอลลูนชมเมืองกัน

เตรียมตัวเสียวกันได้

ลอยสูงกว่าตึกที่เห็นอ่ะ เสียวโว้ยยย

ก่อนกลับบ้านก็แวะซื้อของฝากที่สนามบิน ร้านนี้เป็นร้านของฝากที่ขึ้นชื่อของสิงค์โปร แพงเอาการอยู่เหมือนกัน



แม้จะได้ตั๋วฟรีไป แต่งบใช้จ่ายก็เยอะเหมือนกันน่ะ ก็ค่าเงินเค้าแพงกว่าเรานิ ใครที่คิดจะไปขอบอกว่าให้เตรียมตัวเก็บเงินเยอะน่ะค่ะ เพราะของค่อนข้างแพงถ้าเทียบกับการใช้ชีวิตประจำวันในบ้านเรา ก่อนไปขอแนะนำให้แลกเงินสิงค์โปรไปก่อน เพราะถ้าไปแลกที่โน่น อาจได้แพงกว่าที่นี่ ยังไงก็เช็คค่าเงินให้ดีน่ะค่ะ จะได้ไม่ขาดทุน
เอาว่ะ ครั้งนึง เสียเงินเพื่อสิ่งใหม่ๆ รับรองไปแล้วอยากไปอีก
............................................................................................


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น